Rock It Together

Monday, April 30, 2012

ความผิดที่ฝังใจ

ผมรู้สึกว่าเวลาเกิดอะไรห่าเหวกับเราขึ้นมา เราจะโทษคนอื่นก่อนเสมอว่ามันเกิดเพราะไอ้นั่นไอ้โน่นไอ้นี่ แต่หลาย ๆที โทษคนอื่นนี่ มันหายไปจากใจเราเร็วมาก แค่ด่ามันในใจบางทีก็จบแล้วในเวลาไม่นาน

แต่ถ้าเกิดอะไรห่าเหวกับเราขึ้นมาแล้วเราคิดได้ว่า "ความผิดกูเอง" ความผิดนั้นมันจะเป็นแผลอยู่ในใจเรานานกว่าที่เราคิดว่าเป็นความผิดคนอื่น เราจะได้แต่โทษตัวเองซ้ำๆ ซากๆ ว่าทำไมกูทำแบบนี้ ถึงเราจะเริ่มคิดว่าต่อไปเราจะไม่ทำมันอีก แต่อีกแว๊บ มันจะมีอะไรให้เราคิดว่า ก็เราโง่ขนาดทำผิดครั้งแรกได้ เราคงไม่มีปัญญาทำให้ดีกว่านี้หรอก แล้วมันก็จะวนไปวนมาอย่างนี้นานมากว่าจะหายไปเอง ....

ป.ล. ไม่มีอะไรครับ ผมดีขอจดหมายรับรองของบริษัทเพื่อไปขอ Visa ตั้งใจว่าจะไปขอ Visa วันพุธหน้านี่ แต่ปรากฏว่าผมใส่ข้อมูลการเดินทางไปตอนขอจดหมายรับรองผิดวัน แล้วผมนึกได้ว่าที่ผ่านมาผมจะนึกว่าผมไปวันนั้นๆ ตลอด ทั้งที่จริงๆ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักเป็นอีกวัน คือพยายามจะจำวันที่ถูกยังไงสักพักผมก็จะจำเลื่อนไป 1 วันเสมอ T^T ทั้งๆ ที่ดู ปฏิทินแล้ว โฮ ต้องขอใหม่ ยังไม่ได้เลย ต้องเลื่อนไปขอ Visa วันพฤหัสเลย

Thursday, March 26, 2009

Modern Warfare 2



การกลับมาของเกมส์สนุกขั้นเทพอย่าง Modern Warfare 2 (ตัดคำว่า Call of Duty ทิ้ง!!!) ผมชอบ Trailer แบบนี้นะ แทบจะไม่เปิดเผยรายละเีอียด แต่ทำให้น่าติดตามที่สุด น่าจะเกี่ยวการก่อการร้ายในสนามบินแน่นอน

จริงๆ World at War ก็โอเคนะ สนุกประมาณภาคแรกแต่กราฟฟิกระดับภาค 4

ป.ล. ถ้ามันออกชนกับ Grand Mother of all FPS นะ เป็นเรื่อง!!!

Tuesday, March 24, 2009

The Art of Start

ผมซื้อหนังสือ The Art of Start ของ Guy Kawasaki venture capitalist ชื่อดังแห่ง Silicon Valley และอดีต Apple evangelist ตั้งแต่สมัย Macintosh

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกที่ผมอ่านจบ !!!! (ซื้อมาสองปีเพิ่งอ่านจบ) หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการตั้งบริษัทของตนเอง (เน้นที่บริษัทใหม่ ขนาดเล็ก) ชนิดครบวงจรตั้งแต่การคิดว่า "จะตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ทำไม" การวางแผนงาน การมองหาตลาด การออกไปขายงาน การออกไปขอเงินจนไปถึงการสร้างแบรนด์ !!!

จริงๆ ผมไม่แม่นศัพท์ในหนังสือชนิด 100% หลายๆ ประโยคผมแปลได้ทุกคำแต่พอมารวมกันแล้วอ่านไม่เข้าใจก็เยอะอยู่ จึงทำให้หลายๆ เรื่องยังคลุมเคลืออยู่ (บทการหา Capital) คิดว่าคงต้องอ่านอีกรอบ แบบละเอียดยิ่งขึ้น แต่ก็ได้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่างสำหรับการตั้งบริษัทหรือการริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา (ไม่เรียงลำดับนะครับ)
  • Think BIG, start small
  • พยายามออกไปขายสินค้า/บริการให้บ่อยที่สุด (Sale Pitch) พร้อมปรับปรุงการขายของตัวเองไปเรื่อยๆ
  • ถ้าในตลาดมีคู่แข่ง ต้องรู้ข้อแตกต่างระหว่างเรากับคู่แข่ง (อย่าพยายามเปรียบในแง่เราดีกว่าเพียงอย่างเดียว)
  • ผลิตสินค้า/บริการออกมาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้สมบูรณ์แบบ เพราะมันจะไม่มีวันสมบูรณ์แบบ แต่ต้องแก้ข้อผิดพลาดให้ว่อง
  • จุดเริ่มต้นต้องมีเป้าหมายที่ดี อารมณ์ "เปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น, สินค้า/บริการที่เราจะทำจะต้องมีคุณค่า" ไม่ใช่เพื่อเงินหรือเพื่อฆ่าอะไรสักอย่างให้ออกไปจากตลาด
  • ตลาดที่ไม่มีคู่แข่ง จริงๆ มันอาจจะไม่มีตลาดเลยก็ได้
  • ปรับปรุงทิศทางของสินค้าและบริการไปในทางที่มันไปได้ดีในตลาด ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดมั่นกับสิ่งที่เราอยากจะให้มันเป็น
  • การจ้างงาน คนมาจากบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะมีส่วนร่วมในการทำให้ประสบผลสำเร็จ เอาคนที่มีความมุ่งมั่นและพร้อมจะลุยไปกับเราดีกว่า
  • ตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ใช่ Gust Feeling
  • ตั้งสโลแกนของบริษัทให้สั้นๆ กระชับ ให้ทุกคนในบริษัทเข้าใจ (ประมาณ Mission Statement)
  • ฝึกการ Present ให้คล่องๆ ทำ slide ด้วยกฏ 10/20/30
  • จ้างคนที่เก่งกว่าคุณมาทำงาน
นึกออกคร่าวๆ แค่นี้ล่ะครับ ไว้อ่านใหม่แบบละเอียดๆ คงได้อะไรกว่านี้เยอะ
เล่มหน้า Just for fun!!!